วันอังคารที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างของ cpu

Core 2 Duo, Core i3 5 7, QUAD, Pentium 4, Centrino
Core 2 Duo
เป็นแพลตฟอร์มใหม่ของโปรเซสเซอร์จากค่ายอินเทล ที่ผลิตขึ้นภายใต้สถาปัตยกรรมย่อส่วน Intel® Core™ มีชุดประมวลผลสองชุดเช่นเดียวกับรุ่น Core Cuo แต่ Core 2 Duo พัฒนาต่อจากซีพียู Core Duo คะ ทำให้มีประสิทธิภาพสูงกว่า โดยโปรเซสเซอร์ Intel® Core™2 Duo (หรือ Core 2 Duo) ออกแบบมาเพื่อรองรับงานที่มากกว่าเดิมในเวลาที่น้อยลง โดยใช้เทคโนโลยี Intel® Wide Dynamic Execution, Intel® Smart Memory Access, Intel® Advanced Smart Cache และ Intel® Digital Media Boost คะ นอกจากนี้ โปรเซสเซอร์ Intel Core 2 Duo ยังสามารถรองรับคุณสมบัติต่าง ๆ ด้านระบบความปลอดภัย ระบบประมวลผลเสมือนจริง และระบบประมวลผล 64 บิต เหมาะสำหรับงานมัลติมีเดียและสื่อข้อมูลที่มีความละเอียดสูงได้ รหัสของซีพียู Core 2 Duo จะนำหน้าด้วย T5xxx และ T7xxx นะคะ โดย T5xxx จะมี L2 Cache 2 MB ส่วน T7xxx จะมี L2 Cache อยู่ 4 MB
Core i 3
ซีพียู Core i3 ซึ่งเป็นซีพียูตัวใหม่จากผู้ผลิตนามว่า Intel นั้นเองครับCore i3 นี้เป็น ซีพียูที่หลายคนตั้งหน้าตั้งตารอกันมากเลยทีเดียว สาเหตุเพราะมันเป็นซีพียูที่มีเทคโนโลยีใหม่ และมีราคาที่ถูกเจ้าซีพียู Core i3 นี้ใช้ชื่อรหัส หรือ Code Name ว่า Clarkdale ผลิตด้วยเทคโนโลยีการผลิต 32 นาโนเมตร มีแกนประมวลผล หรือ Core จำนวน 2 Core และด้วยเทคโนโลยี Hyper Threading ทำให้ Core i3 สามารถประมวลได้พร้อมกันถึง 4 Thread ใน 1 รอบการทำงานครับCore i3 ได้มีการติดตั้งหน่วยประมวลผลกราฟฟิค และตัวควบคุมหน่วยความจำไว้บนแผงวงจรเดียวกับซีพียูซึ่งการทำเช่นนี้จะทำให้พื้นที่เมนบอร์ดมีขนาดเล็กลง ไปด้วย*หมายเหตุ นอกจาก Core i3 แล้ว Core i5 รุ่น 2 คอร์ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิต 32 nm ทางอิเทลก็จะมีการติดตั้งหน่วยประมวลผลกราฟิคมาให้ด้ วยเช่นกันนะครับ อิอิ**มาทำความเข้าใจกันก่อนนิดนึงcore i3,i5 รุ่น 2 คอร์ มีหน่วยประมวลผลกราฟฟิคในตัวและใช้เทคโนโลยีการผลิต 32 นาโน ใช้ชื่อรหัส Clarkdale core i7 รุ่น 6 Coreและใช้เทคโนโลยีการผลิต 32 นาโน ใช้ชื่อรหัส GulftownClarkdale และ Gulftown ทั้ง 2 อยู่ในตระกูล Westmereพอจะมองออกแล้วนะครับ เรามาต่อกันนะครับจากรูปเดิมด้านขวามือเราจะพบว่าบนแผงวงจรสีเขียวจะมี ชิพอยู่ 2 ตัว ซึ่งได้แก่1)ชีพซีพียู ซึ่งใช้เทคโนโลยีการผลิต 32 นาโนเมตร2)ซีพที่ทำหน้าที่ประมวลผลกราฟิคและควบคุมหน่วยความจ ำ หรือเราอาจจะเรียกมันว่าชิพเซต North Bridge ซึ่งชิพตัวนี้ใช้เทคโนโลยีการผลิต 45 นาโนเมตรครับสิ่งนี้แสดงให้เราเห็นว่า Intel ยังไม่ได้ทำการอินทิเกรตหน่วยประมวลผลกราฟิคลงไปในตั วซีพียูจริงๆIntel เพียงแค่นำหน่วยประมวลผลกราฟิคไปติดตั้งไว้บนแผงวงจร เดียวกับชิพซีพียูเท่านั้นเองสำหรับ Core i3 นี้ถ้าจะให้ดีต้องใช้กับเมนบอร์ดที่ใช้ ชิพเซต H55 และ H57Core
i3 ราคาล่ะเท่าไร?
Pentium G6950 , DualCore, CPU Clock 2.80 GHz, GPU Clock 533GHZ, L3 3MB, TDP 73W, Price $87Core i3-530 , DualCore, CPU Clock 2.93 GHz, GPU Clock 733GHZ, L3 4MB, TDP 73W, Price $123Core i3-540 , DualCore, CPU Clock 3.06 GHz, GPU Clock 733GHZ, L3 4MB, TDP 73W, Price $143Core i5-650 , DualCore, CPU Clock 3.20 GHz, GPU Clock 733GHZ, L3 4MB, TDP 73W, Price $176Core i5-660 , DualCore, CPU Clock 3.33 GHz, GPU Clock 733GHZ, L3 4MB, TDP 73W, Price $196Core i5-661 , DualCore, CPU Clock 3.33 GHz, GPU Clock 900GHZ, L3 4MB, TDP 87W, Price $196Core i5-670, DualCore, CPU Clock 3.46GHz, GPU Clock 733GHZ, L3 4MB, TDP 73W, Price $284ตอนนี้เราได้รู้ทันทั้งราคา และประสิทธิภาพกันแล้วที่เหลือคงจะขึ้นอยู่กับดุลพิน ิจของแต่ล่ะท่าน
Intel เปลี่ยนชื่อรุ่นซีพียูตระกูล "Core" เป็น Core i7, Core i5, Core i3
ในช่วงเวลาสองสามปีที่ผ่านมานี้ อินเทลได้มีการพัฒนาซีพียูออกมากมายหลายรุ่น และก็ไมีการตั้งชื่อซีพียูแต่ละรุ่นแต่ละตระกูลแยกย่อยออกไปมากมาย ซึ่งในที่สุดแล้วด้วยชื่อรุ่นที่มากมายมันก็จะทำให้ลูกค้าเกิดความสับสนได้ง่าย ทางอินเทลจึงได้ตัดสินใจที่จะทำการเปลี่ยนแปลงชื่อรุ่นของซีพียูให้เป็นหมวดเป็นหมู่ที่จดจำง่ายมากยิ่งขึ้น โดยซีพียูในกลุ่มเดสก์ท็อปหลักๆ ก็จะมีซีพียูอยู่สามซีรี่ส์ด้วยกันคือ Core i7, Core i5 และ Core i3 สำหรับ Core i7 นั้นเราก็คุ้นเคยกันมาสักพักแล้วซึ่งเป็นซีพียูรุ่นใหม่ล่าสุดใช้สถาปัตยกรรมล่าสุดที่ชื่อว่า Nehalem นั่นเอง Core i7 จะเป็นซีพียูกลุ่มประสิทธิภาพสูงมาก ส่วนซีพียูใช้ชื่อซีรี่ส์ว่า Core i5 จะเป็นซีพียูที่มีประสิทธิภาพระดับกลาง-ถึงระดับสูง โดยในส่วนของ Core i5 นั้นอาจจะมีทั้งซีพียูที่มีโค้ดเนมว่า Lynnfiled และซีพียูที่ในตระกูล Core 2 บางรุ่น สำหรับซีพียูซีรี่ส์ Core i3 ก็จะเป็นซีพียูประสิทธิภาพสำหรับการใช้งานพื้นฐานทั่วไป และ Core i3 นั้นจะเริ่มมีให้เห็นกันในช่วง 2010 ส่วนซีพียูอย่าง Pentium, Celeron ยังคงมีใช้อยู่อีกสักพัก แต่ว่าในอนาคตก็จะถูกรวมไปอยู่ในกลุ่มของ Core iX ด้วยเช่นกัน นอกจากจะมีการเปลี่ยนแปลงชื่อของซีพียูแล้ว อินเทลยังมีแผนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงชื่อของแพลตฟอร์มอีกด้วย ชื่อของแพตลฟอร์มอย่าง Intel Centrino ที่ได้รับความสำเร็จอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปีในตลาดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กนั้น อินเทลก็มีเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน คือชื่อของ Centrino จะถูกนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์ทางด้าน Wireless อย่าง WiFi และ WiMAX แทน โดยจะเริ่มต้นแผนนี้ในปี 2010 ส่วนอีกแพลตฟอร์มหนึ่งคือ Intel vPro นั้น อินเทลยังคงไว้เช่นเดิม คือเป็นแพตลฟอร์มสำหรับคอมพิวเตอร์สำหรับองค์กร ที่มีจุดเด่นในเรื่องการบริหารจัดการ และเรื่องความปลอดภัย โดยซีพียูที่จะนำไปใช้ในแพลตฟอร์ม Intel vPro ก็จะประกอบไปด้วย Core i7 และ Core i5 ทั้งหมดที่ทำมานี้นอกจากจะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจในตัวสินค้าได้ง่ายขึ้นแล้ว ถ้ามองในแง่การตลาดก็ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องการสื่อสารกับลูกค้าก็ทำได้ง่ายขึ้น ทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ก็ทำได้ง่ายขึ้นเช่นกัน QUAD Quad Core มันก็หมายถึง ซีพียู ที่มีแกนประมวลผล 4 แกน ซึ่งคำว่า Quad Core เป็นแค่ตัวบ่งชิ้ในข้อมูลของสเป็ค ซีพียู เท่านั้น จะเป็น AMD or Intel ก็ใช้คำนี้เหมือนกันหมด Quad Core กับ Core 2 Quad มันต่างแตกกันยังไง ? คำว่า Quad Core มันก็หมายถึง ซีพียู ที่มีแกนประมวลผล 4 แกน ซึ่งคำว่า Quad Core เป็นแค่ตัวบ่งชิ้ในข้อมูลของสเป็ค ซีพียู เท่านั้น จะเป็น AMD or Intel ก็ใช้คำนี้เหมือนกันหมด แต่คำว่า Core 2 Cuad เป็นชื่อของตระกูลของ CPU ที่ Intel ตั้งไว้ให้ CPU ในสถาปัตยกรรม 65 nm (คือ Kentsfield) กับ 45nm (คือYorkfied) ความหมายคือเป็น CPU Multi Core รุ่นที่ 2 ครับ ซึ่งก็คงรู้กันอยู่แล้วว่า CPU Multi Core รุ่นแรกนั้น ทางอินเทลได้พัฒนาไว้ใน CPU ของ Laptop และให้ชื่อตระกูลของ CPU นั้นว่า Core Duo ( ในสถาปัตยกรรม 65 nm ที่มีชื่อว่า Yonah ) จนกระทั่งประสบความสำเร็จและพัฒนามาเป็น รุ่นที่ 2 เป็น CPU ของ Desktop จึงให้ชื่อว่า Core 2 Duo (ในรุ่นที่มี แกนประมวลผล 2 แกน) และชื่อว่า Core 2 Quad (ในรุ่นที่มีแกนประมวลผล 4 แกน) ก็เท่านั้นเองครับสรุป มันก็ต่างกันที่ว่า Quad Core เป็นตัวบ่งชี้จำนวนแกนประมวลผลที่ใช้กับ CPU 4 แกน (จะค่ายใหนก็ชั่ง) ส่วน Core 2 Quad เป็นชื่อตระกูล CPU ของค่าย Intel เท่านั้น


Intel Pentium4
โดยโปเซสเซอร์ Intel Pentium4 ที่มีจำหน่าย อยู่ในท้องตลาดขณะนี้นั้น ได้แก่ Pentium4 Northwood ซึ่งเป็น Pentium4 รุ่นที่ 2 ที่ติดตั้งบน ซ็อกเก็ต 478 มีแคช L2 512 KB โดยในรุ่นนี้นั้นได้แบ่งออกเป็นอีก 3 รุ่น ดังนี้• Pentium4 Northwood รหัส A (มีอักษร A ต่อท้าย) ใช้ความเร็ว Bus 400MHz • Pentium4 Northwood รหัส B (มีอักษร B ต่อท้าย) ใช้ความเร็ว Bus 533MHz• Pentium4 Northwood รหัส C (มีอักษร C ต่อท้าย) ใช้ความเร็ว Bus 800MHz พร้อมทั้งมี • Pentium4 Extreme Edition หรือ Pentium4 EE เป็นรุ่น Top สุดในปัจจุบัน โดยจำหน่ายเพียง รุ่นเดียวคือ Pentium4 XE3.2GHz มีแคช L2 1 เมกะไบต์ และ L3 2 เมกะไบต์ ทำงานที่ Bus 800MHz และมี Hyper Threading Technology และ Pentium4 Prescott ซึ่งเป็นรุ่นที่พึ่งจะเปิดตัว ไม่นานนี้เอง มีแคช L2 ขนาด 1 เมกะไบต์ ใช้สถาปัตยกรรม 0.09 ไมครอน มีชุดคำสั่ง SSE3 สำหรับโปรเซสเซอร์ Intel Pentium4 ใหม่อย่าง Intel Pentium4 Prescott นี้ มีการเปลี่ยนแปลงจาก Pentium4 ตัวเดิมที่ใช้คอร์ Northwood เดิม ดังนี้คือ Prescott ผลิตด้วยเทคโนโลยี 0.09 ไมครอน (หรือ 90 นาโนเมตร) แทนเทคโนโลยี 0.13 ไมครอนที่ใช้อยู่ใน Pentium 4 รุ่นเดิม โดยผลิตบน แผ่นเวเฟอร์ขนาด 12 นิ้ว ซึ่งจะมีแพ็คเกจขนาดที่เล็กลง ที่ประมาณ 112 ตารางมิลลิเมตร โดยเมื่อเทียบกับขนาด 132 ตารางมิลลิเมตรของ Northwood และ มีทรานซิสเตอร์บรรจุอยู่ประมาณ 125 พันล้านตัว จาก 55 พันล้านตัวของ Northwood โดย Prescott และในส่วนของแคช (Cache) ที่เพิ่มแคช L1 จาก 8KB มาเป็น 16kB และเพิ่มแคช L2 จากเดิม 512KB มาเป็น 1 เมกะไบต์ พร้อมทำงานที่ความเร็ว 800MHz FSB และยังเพิ่มชุดคำสั่ง (Instruction) ด้านมัลติมีเดียเพิ่มเข้ามาอีกไม่ต่ำกว่า 13 ชุด ส่งผล ให้ Prescott มีสมรรถนะด้านกราฟิกและการคำนวณ เลขทศนิยมสูงกว่า Pentium 4 รุ่นเดิมอย่างเห็น ได้ชัด โดย Prescott โดยถูกปล่อยออกสู่ตลาดเมื่อปลายปี 2003 พร้อมฟีเจอร์ด้านซีเคียวริตี้ที่ดีกว่า และใช้เทคโนโลยีการผลิตที่เรียกว่า Strained Silicon ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ทรานซิสเตอร์ทำงานได้เร็วขึ้น โดยสถาปัตยกรรมพื้นฐานของ Prescott เป็นตัวเดียวกันกับ PentiumM โค้ดเนม “Banias” แต่ สำหรับ Prescott นั้นจะพิเศษกว่าตรงที่มีการฝังความสามารถด้านรักษาความปลอดภัยที่เรียกว่า LaGrande เอาไว้ในตัวชิปด้วย อีกทั้งยังรองรับ Hyper Threading Technology ซึ่งจะทำงานเสมือนมีโปรเซสเซอร์ 2 ตัวทำงานอยู่บนระบบเดียวกัน คล้ายระบบดูอัลโปรเซสเซอร์ที่สามารถทำงาน 2 อย่างได้ใน เวลาเดียวกันในเครื่องเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งจำเป็นจะต้องใช้กับเมนบอร์ดที่รองรับการทำงานด้วย
Centrino
Centrino คือ CPU ของ Intelแต่ บวกเข้ากับ Intel Chipset แล้วก็ตบท้ายด้วย Wireless Network Centrino หรือชื่อเต็มมาจาก อินเทล เซนตริโน โมบายล์ เทคโนโลยี (Intel Centrino Mobile Technology) คือชื่อของเทคโนโลยีที่อินเทล (Intel) พัฒนาออกแบบมาเพื่อโน้ตบุ๊กโดยเฉพาะคะ โน้ตบุ๊กที่จะใช้เทคโนโลยี Centrino นี้จะต้องประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลักๆ คือ- ซีพียู Pentium M - ชิปเซ็ตของอินเทล Chipset i855- โมดูล Intel Pro/Wireless ซึ่งเป็นโมดูลของระบบแลนไร้สายหรือ Wi-Fi

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น